“ออกานิก้าเฮ้าส์” เผยโฉมคาเฟ่และแฟล็กชิพสโตร์สุดหรู “ORGANIKA RIVIERE” พร้อมมอบประสบการณ์ความอร่อยและความหอมระดับลักซ์ชัวรี่ ณ Siam Takashimaya ในโครงการ ICONSIAM

ออกานิก้าเฮ้าส์(ORGANIKA HOUSE) ทุ่มงบ 20 ล้านบาท เนรมิตคาเฟสุดหรูและ แฟล็กชิพสโตร์แห่งล่าสุด “ออกานิก้า ริวิเยร์” (ORGANIKA RIVIERE)เปิดประสบการณ์ให้ผู้ที่มี รสนิยมวิไลและหลงใหลในกลิ่นหอมอันน่าพิสมัยได้ดื่มกับความพิเศษเหนือระดับ พร้อม สัมผัสไลฟ์สไตล์สุดเอ็กซ์คลูซีฟไม่เหมือนใคร ณ Siam Takashimaya โครงการ ICONSIAM ตั้งแต่ วันนี้เป็นต้นไป

ด้วยความโดดเด่นในการคัดสรรวัตถุดิบเกรดพรีเมียมจากทั่วทุกมุมโลกมาสร้างสรรค์เป็น ผลิตภัณฑ์สปาและอโรมาเธอราพออร์กานิกชั้นเลิศและปลอดสารพิษอย่างแท้จริง ออกานิก้าเฮ้าส์ จึง ก้าวขึ้นเป็นหนึ่งในแบรนด์ผลิตภัณฑ์สปาและอโรมาเธอราพีสัญชาติไทยระดับลักซ์ชัวรี่ที่ได้รับความนิยม อย่างสูงจากกลุ่มลูกค้าไฮเอนด์ผู้รักธรรมชาติและใส่ใจดูแลตัวเองทั้งชาวไทยและต่างชาติ ตลอดจนเป็น หนึ่งในแบรนด์เครื่องหอมที่ธุรกิจสปาและโรงแรมหรูของไทยและนานาประเทศไว้วางใจได้อย่างรวดเร็ว

โดยหลังจากเปิดตัวสปาระดับพรีเมี่ยมและแฟล็กชิปสโตร์แห่งแรกของแบรนด์ พร้อมคาเฟ่สุดชิค ขึ้นในโครงการพิมาน 49 (สุขุมวิท 49) รวมถึงขยายจุดขายผลิตภัณฑ์ไปกว่า 4 สาขา ทั้งสาขาสยาม

พารากอน ชั้น 1 และชั้น G, ดิเอ็มโพเรียม ชั้น 4 และคิง เพาเวอร์ สนามบินสุวรรณภูมิ ตลอดจนวาง จําหน่ายผลิตภัณฑ์ในสปาของโรงแรมแมริออท ไต้หวัน เพื่อปูพรมสู่การเป็นผู้นําด้านการให้บริการและ ผลิตภัณฑ์ออร์แกนิคสปาอย่างเต็มตัวไปแล้วก่อนหน้านี้ ล่าสุด ออกานิก้าเฮ้าส์ สร้างเซอร์ไพรส์ครั้งใหญ่ เพื่อให้ผู้ที่หลงใหลในรสชาติของอาหารออร์กานิกระดับพรีเมี่ยมและพิสมัยในกลิ่นหอมอันละมุนละไม่ได้ เปิดประสบการณ์ระดับลักชัวรี่ ด้วยการทุ่มงบประมาณกว่า 20 ล้านบาท เปิดตัว“ออกานิก้า ริวิเยร์” (ORGANIKA RIVIERE) คาเฟสุดหรูและแฟล็กชิพสโตร์แห่งที่สองในประเทศไทย ณ สยาม ทาคาชิมายะ (Siam Takashimaya) ในโครงการไอคอนสยาม (ICONSIAM)

คุณศรีริต้า เจนเซ่น กรรมการผู้จัดการ บริษัท ออกานิก้าเฮ้าส์จํากัด เปิดเผยว่า “ปัจจุบันธุรกิจ ผลิตภัณฑ์สปาและอโรมาเธอราพี่ทั่วโลกเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในประเทศไทยมีสัดส่วน การตลาดอยู่ถึง 7,000 ล้านบาท ออกานิก้าเฮ้าส์ จึงรุกทําการตลาดทั้งในและต่างประเทศให้มากขึ้น โดยปี นี้จะเป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลงและเติบโตอย่างก้าวกระโดดของเรา ซึ่งจะทุ่มงบประมาณการลงทุนไปที่ การเปิดสาขา โดยไม่เน้นสาขาในห้างเหมือนที่ผ่านมา แต่จะเน้นความยูนีคและสร้างอัตลักษณ์ให้กับ แบรนด์ด้วยการเปิดสาขาใหญ่ให้เป็นแฟล็กชิพสโตร์ที่มีเอกลักษณ์และความน่าสนใจ เช่นเดียวกับ ออกานิก้า ริวิเยร์ ที่สยาม ทาคาชิมายะ ในโครงการไอคอนสยามแห่งนี้ ที่แตกต่างและมีเอกลักษณ์

เฉพาะตัวอย่างชัดเจน ทั้งในเรื่องของการตกแต่งสถานที่ เมนูซิกเนเจอร์ รวมไปถึงกลิ่นหอมที่สร้างสรรค์ขึ้น เพื่อสาขานี้โดยเฉพาะ ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถดึงดูดและสร้างความประทับใจให้กับกลุ่มลูกค้าทั้งชาวไทยและ ชาวต่างชาติได้ โดยเฉพาะผู้ที่ชื่นชอบไลฟ์สไตล์แบบญี่ปุ่น” ผู้บริหารสาวกล่าว

ทั้งนี้ ออกานิก้า ริวิเยร์ ตั้งอยู่บนชั้น M ใกล้กับจุดเชื่อมต่อรถไฟฟ้าของสยาม ทาคาชิมายะ ภายใน โครงการไอคอนสยาม มีพื้นที่ให้บริการกว้างขวางถึง 77 ตารางเมตร แบ่งสัดส่วนการให้บริการออกเป็นโซน คาเฟ่70 เปอร์เซ็นต์ และส่วนจําหน่ายผลิตภัณฑ์สปาและอโรมาเธอราพี 30 เปอร์เซ็นต์ โดยส่วนของการ ออกแบบและตกแต่งถูกสร้างสรรค์ขึ้นอย่างพิถีพิถันภายใต้คอนเซ็ปท์“Water of Scents”ซึ่งได้แรงบันดาล ใจมาจาก“น้ำ”อันเป็นที่มาของกลิ่นหอมและมีความเกี่ยวเนื่องกับเครื่องหอมมาตลอด ไม่ว่าจะเป็น น้ำอบ น้ำปรุง น้ำหอม ฯลฯ อีกทั้งยังเป็นสิ่งที่ช่วยให้พืชพรรณและต้นไม้เติบใหญ่ขึ้นได้ จึงเปรียบเสมือนเป็นสิ่งที่ หล่อเลี้ยงให้ออกานิก้าเฮ้าส์ เติบโตมาได้อย่างงดงาม ตัวร้านจึงใช้สีเขียวอันเป็นตัวแทนของต้นไม้และ สายน้ำเป็นสีหลัก พร้อมกับตกแต่งด้วยเทียนหอมและแสงไฟอันสวยงามอย่างวิจิตร

นอกจากจะเป็นแฟล็กชิพสโตร์แห่งเดียวของ ออกานิก้าเฮ้าส์ ที่ใช้สีเขียวเป็นสีหลักแล้ว ออกานิก้า ริวิเยร์ ยังมีความพิเศษด้วยกลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่นที่สอดแทรกอยู่ในทุกส่วนประกอบของร้าน ทั้งคาเฟ่ซึ่ง มีเมนูซิกเนเจอร์ที่ใช้ชาเขียวเป็นส่วนประกอบ โดยเฉพาะเมนูขนมและของหวาน อีกทั้งยังมีเครื่องดื่มที่มี ส่วนผสมของมันม่วงญี่ปุ่นให้ได้ลิ้มลองด้วย รวมถึงการนําภาษาญี่ปุ่นบรรจุลงไปในเมนู เพื่อให้รู้สึกถึง ความเป็นญี่ปุ่นอย่างแท้จริง ซึ่งมีให้บริการเฉพาะสาขานี้เท่านั้น

ในส่วนของผลิตภัณฑ์สปาและอโรมาเธอราพี ผู้ที่หลงใหลในกลิ่มหอมละมุนแบบญี่ปุ่นจะได้พบกับ คอลเลคชั่นสุดเอ็กซ์คลูซีฟที่ ออกานิก้าเฮ้าส์ รังสรรค์ขึ้นเพื่อสาขานี้โดยเฉพาะอย่างกลิ่น “Hill of Green Tea” ที่ผสมผสานความหอมของชาเขียวเข้ากับโอ๊คมอสและสวีทเบซิลได้อย่างลงตัวจนได้กลิ่นหอมที่ให้ ความรู้สึกนุ่มนวล ช่วยสร้างสมดุลชีวิตและปลอบประโลมให้ผ่อนคลายจากความวุ่นวายภายนอกได้เป็น อย่างดี โดยนําเสนอมาในรูปแบบของกลิ่นหอมเพื่อการตกแต่งที่ทั้งหอมและสวยงาม

ประกอบด้วย Pure Aroma Massage Candle เทียนหอมจากไขมันถั่วเหลืองและส่วนผสมจาก ธรรมชาติ อุดมด้วยวิตามินอี เชียร์บัตเตอร์ สารสกัดจากแมกโนเลีย และน้ำมันออร์แกนิคโจโจบาร์ จึงช่วย บํารุงผิวได้ดีกว่าน้ำมันนวดแบบเดิม ซึ่งสําหรับคอลเลคชั่นนี้มาในแก้วเทียนสีขาวสบายตา ดีไซน์ใหม่ล่าสุด จาก ออกานิก้าเฮ้าส์, Aromatic Ambiance Oil Mist กลิ่นหอมระเหยจากธรรมชาติแท้ๆ ไม่มีส่วนผสมของ แอลกอฮอล์ จึงไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ, Aromatic Scent Stone หินปั้นจากดินธรรมชาติด้วยฝีมือช่าง ปั้นเชียงใหม่ นํามาอบจนได้กลิ่นหอมอ่อนๆ ช่วยสร้างบรรยากาศและดับกลิ่นไม่พึงประสงค์, Aromatic Diffuser ที่จะช่วยสร้างกลิ่นหอมให้ทุกพื้นที่ และพิเศษด้วยการเปิดตัวเครื่อง Diffuser ที่สามารถเล่นเพลง ผ่านบลูทูธและเปลี่ยนแสงสีได้ตามอารมณ์ของผู้ใช้ เพื่อสร้างบรรยากาศให้เหมาะกับแต่ละอารมณ์และ ความรู้สึกขณะใช้งาน ซึ่งจะช่วยกระตุ้นประสาทสัมผัส 3 ด้าน ทั้งประสาทรับกลิ่น ประสาทรับเสียง และ การมองเห็น ทั้งนี้คอลเลคชั่น“Hill of Green Tea”จะวางจําหน่ายเฉพาะที่ ออกานิก้า ริวิเยร์ เท่านั้น โดยออกานิก้าเฮ้าส์ คาดว่าจะสามารถดึงดูดและสร้างความประทับใจให้กับกลุ่มลูกค้าได้ โดยเฉพาะกลุ่ม นักท่องเที่ยวทั้งจากเอเชียและยุโรป

ไม่เพียงเซอร์ไพรส์กับการเปิดตัว ออกานิก้า ริวิเยร์ เท่านั้น ตลอดปีนี้ ออกานิก้าเฮ้าส์ ยังได้ จัดเตรียมเซอร์ไพรส์อื่นๆ ไว้ให้กับกลุ่มลูกค้าอย่างต่อเนื่อง โดยคุณศรีริต้ากล่าวว่า “ปี 2562 นี้เราได้ วางแผนจัดกิจกรรมทางการตลาดเพื่อตอกย้ำแบรนด์และสร้างภาพลักษณ์ให้เป็นที่จดจําตลอดปี โดยเน้น ไปที่การดูแลลูกค้าเป็นพิเศษด้วยการทําExperience Marketing กับกลุ่มลูกค้าอย่างจริงจังในทุกด้าน นอกจากนี้ยังมุ่งที่จะใส่ใจต่อสังคมให้มากขึ้นด้วย ในส่วนของยอดขายปีนี้ตั้งเป้าไว้ที่ 200 ล้านบาท ซึ่งจะ มาจากแหล่งรายได้ 6 แหล่งด้วยกันคือ คาเฟสปา และผลิตภัณฑ์โฮมสปาและเครื่องหอมที่เราทําอยู่แล้ว นอกจากนี้จะเป็นธุรกิจโยคะ ธุรกิจต่างประเทศ และ Partnership Marketing ที่เราตั้งใจจะทํา และที่สําคัญ คือในเร็ววันนี้เราจะมีเซอร์ไพรส์ใหญ่อีกครั้งกับการเปิดตัวแฟล็กชิพสโตร์สาขาใหม่ซึ่งจะมีความเป็น Iconic มากขึ้น รวมถึงมีความ Sanctuary และ Wellness ร่วมอยู่ด้วย” คุณศรีริต้าเผยถึงแผนการตลาดและ โปรเจ็คท์ที่กําลังจะเกิดขึ้นของออกานิก้าเฮ้าส์ ตลอดปี 2562

นอกจากนี้ออกานิก้าเฮ้าส์ ยังมุ่งมั่นที่จะดําเนินธุรกิจให้เติบโต” อย่างยั่งยืน) “Sustainable Growth (โดยเน้นการสร้างและพัฒนาสินค้าตลอดจนการบริการที่จะก่อประโยชน์อย่างแท้จริงต่อกลุ่ม ลูกค้า ทั้งยังให้ความสําคัญกับการสร้างพันธมิตรทางธุรกิจมากกว่าการแสวงหาผลกําไรหรือยอดขาย ซึ่งจะ ทําให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างมั่นคงและแข็งแกร่ง ทั้งนี้ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ออกานิก้าเฮ้าส์ ใส่ใจในการ พัฒนาผลิตภัณฑ์และให้ความสําคัญกับการคัดสรรวัตถุดิบอยู่เสมอ โดยพยายามเลือกสรรวัตถุดิบ ออแกนิกคุณภาพเยี่ยมมาใช้เป็นส่วนประกอบ จนได้รับการรับรอง Eco Certification อีกทั้งยังเลือกใช้วัสดุ ที่สามารถรีไซเคิลได้และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในการจัดทําผลิตภัณฑ์ รวมถึงการทํากิจกรรม CSR อย่าง สม่ำเสมอ เช่น การปลูกป่าเพื่อเพิ่มพื้นที่ป่าให้กับประเทศไทย รวมถึงการส่งเสริมเศรษฐกิจในชุมชน โดย การสั่งซื้อวัตถุดิบที่มาจากชุมชนโดยตรง เพื่อประกาศเจตนารมณ์ในการเป็นองค์กรรักษ์สิ่งแวดล้อมและ รักษ์โลก ซึ่งเป็นสิ่งสําคัญที่ทุกธุรกิจควรให้ความใส่ใจ

 : ภาพ/ข่าว Lek..Yotita

โอดี้NEWS  รายงาน 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *